เมื่อวันพุธ หลังจากสอบปลายภาควิชาสุดท้ายเสร็จ ผมก็เดินเล่นเดินไปเดินมาแถวท่าพระจันทร์อยู่คนเดียว (เรื่องของเรื่องคือชาวบ้านเขาไม่ค่อยมีสอบกันแล้ววันนี้) เดินไปแผงหนังสือพิมพ์วารสารข้างศูนย์หนังสือฯ ทีแรกตั้งใจว่า อยากได้มติชนสุดสัปดาห์ของเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา แต่ก็ไม่มีแล้ว (ไม่แน่ใจว่าเป็นปรกติหรือเปล่า) ก็เลยยืนดูนิตยสารวารสารต่างๆ ที่วางขายกันอยู่ ปกติผมเองก็ดูแผงหนังสือนี้บ้าง แต่ก็ไม่ได้บ่อยนัก เพราะไม่ได้มาซื้ออะไรเป็นพิเศษ
วันนี้เจอเข้าเล่มหนึ่ง คือ สาละวินโพสต์ พร้อมสโลแกนว่า “แบ่งปันความเข้าใจสู่เพื่อนบ้าน” ก็เลยหยิบขึ้นมาอ่านดู ผมเองก็ไม่แน่ใจว่า ผมเคยอ่านหรือเคยเห็นนิตยสารเล่มนี้มาก่อนหรือเปล่า ชื่อของมัน จะว่าคุ้นก็คุ้น เหมือนจะเคยได้ยิน แต่จะว่าไม่ก็ไม่ อาจจะเพราะการตั้งชื่อสื่อสิ่งพิมพ์ด้วยชื่อแม่น้ำในพม่าก็ไม่ใช่เรื่องแปลก กับการใช้ชื่อว่า โพสต์ ในสื่อสิ่งพิมพ์ก็เป็นเรื่องปกติ แต่ที่แน่ๆ คือ ไม่คุ้นเคยเท่าวารสารเรื่องพม่าที่ “ดัง” กว่าอย่าง The Irrawaddy ที่มั่นใจว่าเคยเห็น
ด้วยความที่รูปเล่มก็ดูใช้ได้ เปิดดูเนื้อหาแล้วก็มีเรื่องน่าสนใจดี ราคา 40 บาทก็นับว่าไม่ใช่จำนวนที่สูงนัก ก็เลยตัดสินใจซื้อมาอ่านดูเล่มหนึ่ง
—
รูปเล่ม
รูปเล่มของสาละวินโพสต์นั้นก็นับว่าสวยงามดี ไม่ได้ถึงกับหรูหราหรือโดดเด่นเป็นพิเศษ แต่ก็มีการจัดที่เรียบร้อย อ่านสบาย หน้าต่างๆ มีเป็นแบบสองสีสลับกับสี่สีบางหน้า เนื้อหาทั้งหมด 48 หน้าไม่รวมปก
เนื้อหา
เนื้อหาโดยรวมไม่ได้หนักมากนัก จุดยืนที่เห็นได้อย่างชัดเจนคือต่อต้านรัฐบาลทหารพม่า (ซึ่งเอาจริงๆ ก็ยังไม่เคยเห็นสื่อไหนที่พูดเรื่องพม่าแล้วสนับสนุนรัฐบาลทหารพม่า) มีการกล่าวถึง (หรืออาจเรียกได้ว่า “กัด”) การที่ผู้นำทหารพม่าพึ่งพาหรือเชื่อโหร มากกว่าหนึ่งครั้ง
เนื้อหาก็มีในรูปแบบที่หลากหลาย ทั้งเรื่องการเมือง เรื่องชีวิตชาวพม่า ข่าวสาร ไปจนถึงสูตรอาหารพม่า เนื้อหาที่น่าสนใจ (สำหรับผม) ในฉบับนี้ก็มีเรื่องการเลือกตั้งที่กำลังจะเกิด บันทึกการเดินทางไปเนปิดอว์ มีเรื่องแนวสัมภาษณ์ชาวกอระข่าพลัดถิ่นในพม่าที่ปัจจุบันทำงานอยู่ในไทย (ทำให้ได้รู้มากขึ้นเกี่ยวกับชาวกอระข่า หลังจากที่เคยได้ยินครั้งแรกตอนทำรายงานเรื่องวิกฤติการเมืองเนปาลสมัยมัธยม) เรื่องภาพยนตร์ Beyond Rangoon และเรื่องเกี่ยวกับแม่หลวงชาวกะเหรี่ยง
อื่นๆ
ปกในด้านหลัง มีราคาค่าสมาชิก ซึ่งระบุว่าปรับขึ้นมาในปี 2553 นี้ โดย “สมาชิกประเภทบุคคลทั่วไป ปีละ 200 บาท (6 เล่ม) สมาชิกประเภทนักเรียน/นักศึกษา ปีละ 200 บาท (6 เล่ม)” ก็เลยไม่รู้ว่า สมาชิกสองแบบนี้ แตกต่างกันอย่างไร (เดาเอาเองว่า เมื่อก่อนอาจจะต่าง?)
—
เท่าที่ลองอาศัยกูเกิลดู ก็พบว่า ที่เคยได้ยินมาก่อนก็อาจจะไม่แปลกอะไร นิตยสารฉบับนี้ก็มี coverage ในระดับหนึ่ง ที่น่าจะอ่านแล้วเข้าใจหรือเห็นภาพมากที่สุดน่าจะเป็นบทความของประชาไทเมื่อต้นปี อ่านดูแล้วก็ทำให้พอจะเข้าใจที่มาที่ไปพอสมควร จุดที่น่าสนใจคือ เขาบอกว่า บางคนอาจจะมองว่าสาละวินโพสต์ ‘เบา’ เกินไป ที่ไปมีพวกเรื่องโหราศาสตร์พม่า ทำอาหารพม่า แทนที่จะโฟกัสกับเรื่องการเมือง แต่จะให้ทำยังไง ในเมื่อทำมาห้าหกปี สถานการณ์อะไรมันก็ไม่เปลี่ยน อองซานซูจียังถูกกักบริเวณเหมือนเดิม ทหารยังครองเมืองเหมือนเดิม
—
ช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา ผมรู้สึกได้ว่า ผมอ่านหนังสือ หรือแม้แต่อ่านข่าวหรือบทความต่างๆ น้อยลงมาก สองสามเดือนที่ผ่านมา ผมรู้สึกว่าอยากจะติดตามสื่อสิ่งพิมพ์อะไรสักอย่างให้มากขึ้น (ช่วงปีที่ผ่านมาผมแทบไม่ได้อ่านหนังสือพิมพ์กระดาษด้วยซ้ำ) คิดว่าปิดเทอมนี้ คงจะเป็นเวลาที่ดี ที่จะได้หาอะไรใหม่ๆ อ่านเพิ่มเสียที
อ่านใจฉัน ทะลุถึงหัวใจ
Do you have time to read about Burma?
from what you scan, don’t think it can be a lot sells.
อย่าดูถูกโหรพม่านะครับ… นาร์กิสเข้าเค้าย้ายเมืองหลวงหนีทันเพราะใคร
I come to visit your new web jaaaaa
พี่ก้อนโลเลกับชื่อเหรอครับ
ว่าแต่ลองคอมเมนท์บ้าง…
เอา archives, categories & tags ไว้ข้างล่างแบบนี้มันจะไม่ไม่สะดวกเหรอครับ